เวลา เป็นสิ่งมีค่า
วันนี้มาว่าถึงเรื่องเวลาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาในชีวิตแระจำวันหรือเรื่องการแพทย์ การแพทย์ตะวันออกถือว่า
กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก
โดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้น
ภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกายซึ่งประกอบด้วย
อวัยวะตันและอวัยวะกลวงอวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ
ไตอวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ
ระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ)
ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี 12
อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต”
01.00 น. - 03.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ตับ"
ข้อควรปฏิบัติ
: นอนหลับพักผ่อนให้สนิท
อาหารบำรุง
: อาหารที่ช่วยล้างพิษ เช่น งา น้ำผลไม้และน้ำสะอาด
03.00 น. - 05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ปอด"
ข้อควรปฏิบัติ
: ตื่นนอน สูดอากาศสดชื่น
อาหารบำรุง
: อาหารจำพวกเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูง เช่น ส้ม ผักใบเขียว น้ำผึ้ง หอมใหญ่
05.00 น. - 07.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้ใหญ่"
ข้อควรปฏิบัติ
: ขับถ่ายอุจจาระ
อาหารบำรุง
: อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
07.00 น. - 09.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะอาหาร"
ข้อควรปฏิบัติ
: กินอาหารเช้า
อาหารบำรุง
: ควรมีพลังงานและสารอาหารอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ของปริมาณที่ควรได้รับตลอดวัน
09.00 น. - 11.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ม้าม"
ข้อควรปฏิบัติ
: พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
อาหารบำรุง
: มันเทศสีแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากบุก
11.00 น. - 13.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"หัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ
: หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง
อาหารบำรุง
: อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดงและผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีต่างๆ
13.00 น. - 15.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ลำไส้เล็ก"
ข้อควรปฏิบัติ
: งดกินอาหารทุกประเภท
อาหารบำรุง
: อาหารไขมันต่ำ น้ำสะอาด
15.00 น. - 17.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"กระเพาะปัสสาวะ"
ข้อควรปฏิบัติ
: ทำให้เหงื่อออก (ออกกำลังกาย หรือ อบตัว)
อาหารบำรุง
: ผลไม้เช่น บิลเบอร์รี่ และทานน้ำสะอาดมากๆ
17.00 น. - 19.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ไต"
ข้อควรปฏิบัติ
: ทำตัวให้สดชื่น ไม่ง่วงหงาวหาวนอน
อาหารบำรุง
: อาหารที่มีเกลือต่ำ รวมถึงสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า
17.00 น. - 21.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"เยื่อหุ้มหัวใจ"
ข้อควรปฏิบัติ
: ทำสมาธิ หรือสวดมนต์
อาหารบำรุง
: อาหารจำพวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ รวมถึงวิตามินบีต่างๆ
21.00 น. - 23.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ระบบความร้อนของร่างกาย"
ข้อควรปฏิบัติ
: ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำร่างกายให้อบอุ่น
อาหารบำรุง
: อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม
23.00 น. - 01.00 น.
เป็นช่วงเวลาการทำงานของ"ถุงน้ำดี"
ข้อควรปฏิบัติ
: ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
อาหารบำรุง
: อาหารที่มีไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
ต่อมเล็กๆในสมองของมนุษย์คือ
จุดควบคุมจังหวะสั่งการให้ร่างกายเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะต่างๆ ทั้งกลางวันและ
กลางคืน ฮอร์โมนหลั่งออกมาจากต่อม เป็นศูนย์รวมบัญชาการเหล่านี้
คือเครื่องชี้นำที่เราท่านมีความสุขหรือเป็นทุกข์กังวล
เป็นความจริงที่ควรรับทราบเพราะหากรู้ธรรมชาติตรงนี้ดีแล้ว
จะได้แบ่งดูแลควบคุมพฤติกรรมในแต่ละวันของตนได้ เหมือนกับ
มีนาฬิกาภายในร่างกายคอยชี้บอกให้ทราบว่าช่วงนี้ จังหวะร่างกายจะมีสภาพอย่างไร
ศาสตร์ในเรื่องพฤติกรรมตรงนี้ นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าโครโนไบโอโลยี
ถ้าหากเรารู้จังหวะ รู้จักระมัดระวังชีวิต ก็จะอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ไม่ยาก
06.00 น. ต้องยอมรับว่า
หกโมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายตื่นตัวที่สุด
07.00 น. เหมาะสำหรับเป็นเวลาอาหารเช้า
ระบบการย่อยอาหารจะทำงานได้ดีที่สุด สารอาหารแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ จะถูก
เปลี่ยนเป็น พลังงานได้อย่างสมบูรณ์
08.00 น.
เป็นช่วงเวลาที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวบ่อยที่สุด เพราะเลือดในร่างกายเข้มข้น
เลือดมีโอกาสจับตัวอุดตันจนเกิด อันตรายได้มากกว่าช่วงเวลาอื่น
09.00 น.
สมองส่วนความจำจะทำงานได้ดีมากในช่วงนี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องจำ
สมองจะรับและบันทึกไว้ได้ดีที่สุด
10.00 น.
ถ้าเป็นไปได้ควรนัดเจรจาเรื่องสัญญากับวิเคราะห์
ด้วยเหตุผลและการพูดจาระหว่างการสนทนาจะออกมาเป็น จุดเด่นในช่วงนี้
11.00 น.
ร่างกายในช่วงที่สามารถให้ประสิทธิภาพได้สูงสุด หัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิต
ทำงานได้เต็มที่ ช่วงนี้ไม่ว่าจะ เป็นการวิ่งมาราธอนหรือต่อสู้กับสภาพของงาน
มนุษย์จะทำได้ดีที่สุด
12.00 น. จุดหักมาถึงแล้ว สมาธิเริ่มแย่
อุบัติเหตุในการทำงานจะเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่หยุดพักจะทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้
13.00 น. กระเพาะอาหารเตรียมทำงานของมันด้วยการหลั่งกรดออกมา
ต้องหาอะไรรับประทานให้ได้ ไม่งั้นโรคกระเพาะอาหาร จะตะโกนถามหา
14.00 น.
ถ้าหากด้องการประดิดประดอยอะไรเพื่อเซอร์ไพรส์คนรักคนชอบละก็ให้รีบทำซะตอนนี้เพราะเป็นช่วงที่มือไม้ทำงานได้
ประณีตดีที่สุด
15.00 น. พลังงานแห่งการทำงานกลับมาอีกครั้ง
ความจำขึ้นถึงสูงสุดอีกครั้ง ช่วงนี้น่าจะหาโอกาสเข้าพบเจ้านายเพื่อ
ขึ้นเงินเดือนได้ ในช่วงนี้จิตใจจะไม่กลัวการเผชิญหน้าใดใด
16.00 น.
มนุษย์จะทนต่อความเจ็บปวดได้ดีที่สุดในชั่วโมงนี้
ถ้าจะไปทำฟันก็เลือกประมาณนี้แหละ ถ้าทำได้ยาชาเข็มหนึ่งจะมีผล พอๆ กับการได้รับ 3 เข็ม เลยทีเดียว
17.00 น.
แรงดันและการไหลเวียนของโลหิตจะเคลื่อนไหวได้ดีมาก
เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาออกกำลังกายกล้ามเนื้อ
อยู่ในช่วงที่แข็งแรงที่สุด และเมื่อได้ฝึกอย่างถูกวิธี
ก็จะเกิดความแข็งแรงรวดเร็วมาก
18.00 น. จงระวังขณะขับรถอยู่บนถนน
ช่วงนี้ผู้คนจะเหนื่อยเพลียและขาดสมาธิมากกว่าช่วงเวลาชั่วโมงอื่นๆ
เป็นช่วงที่เกิด อุบัติเหตุบ่อยครั้งที่สุด
19.00 น.
สมองได้รับเลือดหล่อเลี้ยงมากเพียงพอ เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันในช่วงนี้
จะสามารถแก้ไขให้ลุล่วงดีได้เร็วมาก
20.00 น. คนเราเริ่มสดชื่นหลังการพักผ่อนที่ต้องกรำงานตลอดทั้งวัน
แล้วเป็นช่วงดีสำหรับการพบปะหมู่มิตร ใครที่อยากจะ บอกรัก ขอใครแต่งงานควรจะทำใน
ชั่วโมงนี้โอกาสประสบความสำเร็จมีมากที่สุด
21.00 น.
กระเพาะอาหารจะหยุดทำงานพอถึงช่วงเวลานี้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารหนัก
เพราะไม่เช่นนั้นก็จะไปครั่งค้าง ในกระเพาะเกิดผลเสียหายตามมา
22.00 น. ถึงเวลาเข้านอนแล้ว
ความดันโลหิตจะลดลงพร้อมๆ กับอุณหภูมิของร่างกายที่ต่ำลง การนอนหลับก่อนเที่ยงคืน
เป็นการหลับที่สนิท และช่วยให้การพักผ่อนอย่างเต็มที่มากกว่าช่วงอื่น
23.00 น. ร่างกายกำลังผ่อนคลาย
สมองทำงานน้อยลง ถ้าดูหนังสือ ช่วงนี้วันต่อไปก็จะจำไม่ได้เป็นส่วนใหญ่
24.00 น.
ใครที่ยังไม่หลับควรให้โอกาสนี้สำหรับการสร้างสรรค์ จะเป็นงานเขียน วาดรูป
หรือแต่งเพลง ล้วนเป็นช่วงเวลาที่ วิเศษทั้งสิ้น
เพราะสมองปลอดโปร่งคิดโน่นคิดนี่ได้ดีที่สุด
01.00 น. ถึงตอนที่สมองเหนื่อยล้าที่สุดแล้ว
ร่างกายอยากพักผ่อนเต็มที่ แม้จะชาชินกับงานกลางคืนมาเป็นปีแต่พอเข้า
ชั่วโมงนี้จะรู้สึกว่าเหนื่อย เพลีย ง่วงที่สุด
02.00 น. ฮอร์โมนเมลาโตนิน ถูกขับออกมามาก
ทำให้คนเราเลื่อนลอยเหนื่อยล้าและมีโอกาสคิดสั้นฆ่าตัวตายมากที่สุด
03.00 น.
ในร่างกายมนุษย์ทุกอย่างแทบจะหยุดนิ่ง ใครที่จุดบุหรี่สูบมีโอกาสหลับทั้งๆ
ที่ยังคาบบุหรี่อยู่ในปากนั่นเลยช่วงนี้มีโอกาสไฟไหม้บ้านมาก
04.00 น. ร่างกายเริ่มตื่นขึ้นมาทำงานอีก
เพราะมีฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งใช้ต่อสู้กับความเครียดหลั่งออกมา คนเป็นโรคหืดหอบ
จะมีปัญหากับการหายใจ
05.00 น.
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แก่ทั้งหลายควรตระเตรียมข้าวของให้พร้อมสำหรับชั่วโมงนี้
เพราะตามสถิติเด็กทารกจะคลอด ออกมาลืมตาดูโลกระหว่างชั่วโมงนี้มากที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น